ทำการตลาดบน Facebook ดีอย่างไร หากให้ระลึกถึงแนวทางการทำ Social Media Marketing ที่คงจะได้ผลลัพธ์เหมาะสมที่สุดขณะนี้ก็อาจหนีไม่พ้น Facebook เพราะว่านอกเหนือจากจะมีฐานผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกแล้ว ยังสามารถทำโปรโมทแบบชี้เฉพาะกลุ่มเป้าหมายได้ค่อนข้างจะลึกรวมทั้งละเอียดที่สุด เพราะว่า Facebook เก็บทุกสิ่งที่ผู้ใช้งานบันทึกลงในเว็บไล่ตั้งแต่เบื้องต้นอย่างชื่อ สกุล ความชื่นชอบความชิงชัง รับประทานอะไร เช็คอินที่ใด รวมถึงการกำหนดสถานะไม่มีคู่ ไม่ไม่มีคู่ครอง มีคู่รักมาแล้วกี่คนแล้วก็คนไหนกันแน่บ้าง รวมทั้งความพอใจที่คุณเจรจากับเพื่อนฝูงในแชท อื่นๆอีกมากมาย Facebook เก็บหมด! กลุ่มนี้ช่วยทำให้ Advertiser สามารถใช้ประโยชน์ระบุกลุ่มเป้าหมายได้ให้ละเอียด รวมทั้งตั้งแต่นี้ต่อไปเป็น 9 Tips จำง่ายใช้ง่ายที่จะสามารถช่วยให้การตลาดบนแฟนเพจของคุณมีคุณภาพและก็ต่อยอดกับขั้นตอนการยิงโปรโมทของคุณในอนาคต

1. เพิ่มปุ่มแชร์บทความบนเว็บไปยัง Facebook ให้แน่ชัด ถ้าหากคุณทำการตลาดออนไลน์ อย่างแรกที่จะต้องนึกถึงก็คือ เว็บเป็นหน้าบ้านหลักของคุณ ส่วน Facebook หรือ Social Media อื่นๆเทียบเสมือบ้านเช่า ด้วยเหตุดังกล่าวแม้คุณจะบุกออนไลน์ คุณต้องมีเว็บเป็นขั้นตอนแรกก่อน แล้วต่อจากนั้นให้ท่านเริ่มทำ Content ไม่ว่าจะเป็น บทความ รูปภาพ วีดีโอ ลงบนเว็บแล้ว ให้ทำจัดตั้งปุ่มแชร์ไปยัง Social Media ต่างๆให้มองเห็นได้ง่าย ได้แก่ รอบๆ ข้างบนแล้วก็ข้างล่างสุดของ Content แต่ว่าจะต้องไม่ลืมเลือนว่า Content ของคุณ ควรจะเป็นคุณประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายของคุณ รวมทั้งมันจะก่อให้กลุ่มเป้าหมายของคุณ เริ่มแชร์ เริ่มบอกต่อกันบนโลกโซเชียลนั่นเอง คุณสามารถจัดตั้งปุ่มแชร์ให้สะดุดตา งาม รวมทั้งน่าคลิ๊กด้วย MashShare WordPress Plugin

2. รู้จักกลุ่มเป้าหมายที่จริงจริงของธุรกิจคุณ ก่อนจะกระทำการโพสต์ Content หรือลงประชาสัมพันธ์บน Facebook สิ่งจำเป็นที่คุณจำเป็นจะต้องทราบก่อนก็คือ กลุ่มเป้าหมายที่จะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าของคุณนั้น อาทิเช่น เพศ, อายุ, ที่อยู่ที่อาศัย, สถานที่สำหรับทำงาน, ไลฟ์สไตล์, ความพึงพอใจ, งานที่ทำในเวลาว่าง, ความชื่นชอบ, รายได้ อื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ กระบวนนี้เรียกว่าการระบุ Buyer Persona Buyer Persona เป็นการเจาะจงกลุ่มเป้าหมายที่ได้โอกาสจะมาเป็นลูกค้าของคุณโดยเจาะจงให้เฉพาะที่สุด แม้กระนั้นเป็นสิ่งที่แม่ค้าปริมาณไม่ละเลยเป็นลำดับต้นๆด้วยเหตุว่าคาดหวังว่าจะให้ผู้ซื้อของตนเยอะมากๆก็เลยระบุกรุ๊ปกว้างๆเปรียบเทียบอุปมาอุปไมยเหมือนว่าจะขายทุกคนบนโลกนี้ ซึ่งในทางปฏิบัตินั้นไม่มีทางเป็นไปได้ และก็แปลงเป็นว่าไม่มีลูกค้ามาซื้อ เพราะว่าคนเห็นไม่ใช่ลูกค้า ส่วนลูกค้ามิได้มองเห็น เนื่องจากระบุกรุ๊ปไม่ถูก รวมทั้งติดต่อไม่ถูกที่ผิดทาง

3. ใช้โปรโมทของ Facebook เพื่อรีบสมรรถนะ แน่ๆว่าการทำธุรกิจคงจะไม่ยอมรับการใช้งบประมาณด้านการตลาดไปมิได้ ซึ่งในตอนนี้ หลายๆธุรกิจ ก็หันมาลงงบประมาณด้านการตลาดออนไลน์แซงหน้าการตลาดแบบเริ่มแรกไปเป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว โดย Facebook Advert (เครื่องไม้เครื่องมือโปรโมทของ Facebook) นั้น ก็มีหลายฟังก์ชั่นให้ท่านได้เลือกใช้ เป็นต้นว่า… Facebook Page Engagement เป็นการ Boost Post เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมกับโพสต์ที่คุณได้โพสต์ลงบน Timeline ของแฟนเพจของคุณ Facebook Page Likes เพิ่มไลค์บนแฟนเพจ เพราะว่าถ้าฐานแฟนเพจคุณยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเพิ่มช่องทางสำหรับเพื่อการเห็น Content รวมทั้งผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้มากเพิ่มขึ้น Click to Website ส่งผู้คนไปยังเว็บ ไม่ว่าจะเป็นหน้าบทความ หรือหน้า Sales Page เพื่อเพิ่มผู้เข้าชมเว็บและก็หวังผลสำหรับเพื่อการปิดแนวทางการขายบนเว็บไซต์ที่จัดตั้งระบบ E-Commerce Shoppint Cart Website Conversions ส่งผู้คนไปยังหน้าเว็บของคุณ เพื่อผู้คนทำการอะไรบางอย่าง เป็นต้นว่า ปิดแนวทางการขาย, สมัครรับข้อมูล หรือสมัครสมาชิก ฯลฯ App Installs ส่งโปรโมทเพื่อผู้คนจัดตั้งแอพลิเคชั่นมากเพิ่มขึ้น App Engagement ส่งโปรโมทให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับแอพลิเคชั่นมากเพิ่มขึ้น Event Responses ให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับกิจกรรมอีเวนต์พื้นที่แฟนเพจหรือแบรนด์ของคุณจัดงานขึ้น Offer Claims ทำประชาสัมพันธ์เพื่อส่งข้อแนะนำพิเศษให้กับผู้คนเพื่อเข้ามารับข้อเสนอพื้นที่แฟนเพจของคุณทำขึ้น

4. การมีส่วนร่วมกับแฟนเพจ Facebook อื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน เป็นแนวทางที่ง่ายแม้กระนั้นสำเร็จเป็นอันมาก แม้กระนั้นจำเป็นต้องรู้เรื่องก่อนว่า การไปคอมเม้นท์ที่แฟนเพจของคนอื่นๆนั้น จึงควรไม่เป็นการสแปมหรือขายสินค้าโดยเด็ดขาด แม้กระนั้นจะต้องเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน FBKings ได้แก่ แม้คุณประกอบกิจการเกี่ยวกับรถยนต์มือสอง คุณอาจเข้าไปคอมเม้นท์หรือมีส่วนร่วมกับแฟนเพจที่เกี่ยวกับอะไหล่ยนต์ เพื่อเสวนาหรือเปลี่ยนข้อมูลกัน และก็ขอย้ำว่าห้ามไปขายสินค้าโดยเด็ดขาด

5. ใช้ Content นานัปการต้นแบบ Content บน Facebook มิได้มีเพียงแค่การโพสต์เป็นตัวอักษรสิ่งเดียว สำคัญๆมี 4 แบบอย่างที่คุณสามารถทำเป็น อย่างเช่น… a) Status – การอัพเดทสถานะทั่วๆไป ในรูปแบบของตัวอักษร โดยคิดเป็น 1% ของแบรนด์สุดยอดที่ใช้การโพสต์ในรูปแบบนี้ b) Link Post – คิดเป็น 35% ของชนิดการโพสต์ที่แบรนด์มักทำกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุ๊ปเพจจำพวกข่าวสารนิยมแชร์ Link Post เป็นลำดับแรกๆเพราะเหตุว่าอยากได้ทราฟฟิกเข้าเว็บเพื่อนำยอดคนเข้าเว็บไซต์ไปพบ Sponsor ต่อ c) Photo – การโพสต์แบบรูปภาพ เป็นแนวทางที่แบรนด์ผลิตภัณฑ์ต่างๆถูกใจใช้เป็นลำดับต้นๆเนื่องจากว่าเข้าถึงคนง่าย สะดุดสายตา ก่อกำเนิดการแชร์ได้ดิบได้ดี รูปร่างการโพสต์แบบงี้มากถึงราวๆ 50% d) Video – การโพสต์แบบวีดีโอ อยากได้รับการเข้าถึงที่ดีบน Facebookในเดี๋ยวนี้ รวมทั้งมีแบรนด์ใหญ่ๆสุดยอดเลือกใช้การโพสต์ในรูปแบบนี้ คิดเป็นค่าถัวเฉลี่ย 6 วีดีโอต่ออาทิตย์

6. การใช้ Email List ที่มีอยู่ในมือ ถ้าคุณได้มีการเก็บข้อมูล Email จากผู้เที่ยวชมเว็บและก็ข้อมูลของลูกค้าแล้วล่ะก็ คุณสามารถอัพโหลด Email พวกนั้น ลงบน Facebook เพื่อทำโปรโมทเฉพาะกรุ๊ป Email นี้ได้ ข้อดีคือ Email ของมนุษย์พวกนี้ รู้จักคุณมาบ้างแล้วหรือรู้จักอย่างดีเยี่ยม โดยเหตุนั้น ยิ่งเป็น Email ของลูกค้าเก่าที่เคยอุดหนุนผลิตภัณฑ์ของคุณมาก่อนแล้ว ในเวลาที่คุณออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ก็สามารถลงโปรโมทเพื่อชี้ให้เห็นเฉพาะกรุ๊ปลูกค้าเก่า ซึ่งจะก่อให้จังหวะสำหรับเพื่อการปิดการค้าขายคุณสูงมากขึ้น ในระหว่างที่ใช้งบประมาณสำหรับการประชาสัมพันธ์ลดน้อยลงอีกด้วย โดยคุณสามารถศึกษาเพิ่มอีกพอดี How to use Facebook Custom Audiences

7. การตอบกลับใจความอย่างเร็ว ถ้าหากคุณพินิจที่หน้าแฟนเพจของคุณ จะมีหัวข้อหนึ่งที่เขียนเอาไว้ว่า “อัตราการตอบกลับ xx%, เวลาสำหรับเพื่อการตอบกลับ x ชั่วโมง/วัน” แม้คุณกระทำตอบกลับเนื้อความของแฟนเพจอย่างเร็วแล้วก็ครอบคลุม (โดยทั่วไปควรจะตอบ 95% ของปริมาณใจความทั้งปวง และก็ควรจะตอบข้างใน 5 นาที) สถานะนี้ก็จะกลายเป็น “ธรรมดาแล้วตอบกลับทันทีทันใด” ซึ่งเป็นอัลกอลิโง่ที่มีผลต่อการประมวลผลของ Facebook ของแฟนเพจของคุณว่า มีการสนองตอบที่เร็วทันใจ ทำการตลาดบน Facebook ดีอย่างไร แล้วก็ลูกค้าหรือที่ลูกค้าของคุณก็สามารถมองเห็นเนื้อความนี้ได้ รวมทั้งทำให้มั่นอกมั่นใจได้ว่า มีแอดไม่นหรือคณะทำงานที่พร้อมจะเจรจากับผู้คนเหล่านั้นในทันทีทันใด ซึ่งคุณจะพบว่า ลูกค้าในตอนนี้ ใจร้อน แม้คุณตอบกลับช้าเกินความจำเป็น อาจจะก่อให้ลูกค้าเปลี่ยนความคิดไม่ซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ หรืออย่างห่วยที่สุดก็คือ หันไปซื้อคู่ต่อสู้ของคุณแทน

8. ทำวีดีโอด้วย Facebook Live วิธีการทำวีดีโอผ่าน Facebook Live เป็นฟังก์ชั่นใหม่ ที่ Facebook ให้การเข้าถึงผู้คนได้ง่ายรวมทั้งเร็วทันใจมากเพิ่มขึ้น ซึ่งวิธีการทำ Facebook Live นั้น มีอีกทั้งจุดเด่นข้อด้อยนานับประการ แม้กระนั้นพวกเราจะกล่าวถึงจุดเด่นและก็ข้อเด่นสำหรับในการทำ Facebook Live กัน โดยแม้คุณอัดวีดีโอในฟังก์ชั่น Facebook Live ซึ่งจะเป็นการถ่ายทอดสดในในเวลานั้น ซึ่งคุณสามารถตอบโต้กับทางแฟนเพจของคุณได้โดยตรงรวมทั้งเฉียบพลัน ซึ่งจะก่อให้แฟนเพจของคุณได้สนิทสนมกับคุณแล้วก็ธุรกิจของคุณมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งกว่านั้นทาง Facebook เอง ยังช่วยเหลือให้หญิงรับใช้ฟังก์ชั่นนี้ โดยจะสังเกตุได้จาก ถ้าเป็น วีดีโอจาก Facebook Live จะสามารถเข้าถึงผู้คนได้จำนวนไม่ใช่น้อยกว่า Content ชนิดอื่น แล้วก็อัตราการลงประชาสัมพันธ์ยังมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าอีกด้วย เมื่อเทียบจำนวนเงินที่จ่ายไปกับการเข้าถึงผู้คนบน Facebook — ทำความเข้าใจกระบวนการถ่ายทอดสดด้วย Facebook Live ตรงนี้

9. ให้ผู้ชมของคุณช่วยสร้าง Content แล้วก็ Engagement การผลิต Content เป็นหน้าที่หลักของคุณ แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันการดึงแฟนเพจมาร่วมสร้างรายละเอียดและก็การมีส่วนร่วมกับคุณก็เป็นอีกหนทางที่น่าดึงดูด แล้วก็ยังเป็นเหตุให้พวกเขาสนิทสนมกับแบรนด์มากขึ้น วิธีการทำดังต่อไปนี้… ตอบคอมเม้นท์กลับด้วยปัญหาปลายเปิด ซึ่งกระบวนการทำในรูปแบบนี้ จะช่วยทำให้ผู้ที่คุณตอบคอมเม้นท์รวมถึงคนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมสำหรับในการให้ความเห็นต่างๆช่วยเพิ่ม Engagement บน Facebook ได้อย่างดีเยี่ยม หรือทำโพสต์ถามคำถามที่เกี่ยวพันกับกรุ๊ปผู้ชมของคุณถูกใจหรือให้ความสนใจเป็นพิเศษ เริ่มด้วยประโยคพูดคุยเรียบง่ายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณ ดังเช่น ให้มีส่วนร่วมเกี่ยวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือให้เลือกว่าผลิตภัณฑ์ที่ดีไซน์มาทั้งปวง พวกเขาถูกใจแบบไหนที่สุด ฯลฯ

ทำการตลาดบน Facebook ดีอย่างไร ทำการตลาดบน Facebook ยังสำเร็จอยู่ไหม?

สำหรับผู้ที่ติดตามข่าวการตลาดดิจิทัลพักหลังมานี้คงจะได้มองเห็นข่าวสารห่วยๆของ Facebook กันมาบ้างครับผม ทำการตลาดบน Facebook ดีอย่างไร อีกทั้งเรื่องราคาประชาสัมพันธ์ที่แพงขึ้น เรื่อง Algorithm ที่เปลี่ยนตลอดระยะเวลา เรื่อง Organic reach ที่แทบจะเป็นศูนย์ ประเด็นการจัดแจงข้อมูลของผู้ใช้งานที่ไม่เหมาะสม หรือจนถึงประโยค “Future is Private” ของพี่มาร์ก รวมทั้งอีกหลายๆเรื่อง นี่ยังไม่รวมกระแสของการผลิตแพลตฟอร์มของตนเองมากยิ่งกว่าจะฝากทุกๆสิ่งทุกๆอย่างไว้ที่ Facebook ครับ

ก็เลยมีปริศนาว่า วิธีการทำการตลาดบน Facebook ยังสำเร็จอยู่ไหม?

พวกเรายังจำเป็นต้องรวมทั้งจำเป็นต้องมี Facebook อยู่ในแนวทางตลาดของพวกเราอีกไหม?

หากแม้มีหลายเรื่องที่ควรเป็นห่วงสำหรับในการทำ Marketing แม้กระนั้นก็ยังมีหลายเหตุผลที่รับรองครับผมว่า Facebook ยังคงใช้เห็นผลรวมทั้งมีคุณภาพ มีคุณค่าที่จะอยู่ในแนวทางตลาดดิจิทัลของพวกเราถัดไป ผมขอชูเหตุผล 5 ข้อสำคัญๆดังนี้ครับผม

1. Facebook ช่วยทำให้พวกเราเข้าถึงคนประเทศไทยสาย Social ได้สูงที่สุด พร้อมทั้งระบบ Targeting ที่แม่น

ด้วยจำนวนผู้ใช้งาน 53 ล้านบัญชี Facebook ก็เลยเป็น Social network ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในไทย (แถมเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆพวกเรามีปริมาณมวลชนบน Facebook เป็นชั้นที่ 8 ของโลก!)

ด้วยจำนวนนี้ทำให้การเข้าถึงหรือ Reach ของ Facebook นั้นเยอะแยะจนกระทั่งไม่มีทางเป็นไปได้เลยจ๊านะครับที่จะไม่ทำการตลาดผ่าน Facebook โดยยิ่งไปกว่านั้นกรุ๊ป 18-44 ปี ที่มีกำลังซื้อแล้วก็ดำรงชีวิตอยู่บน Social บ่อยๆ

แน่ๆว่าในแต่ละ Campaign พวกเราอยากเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายชัดๆเพียงแค่กรุ๊ปเดียว มิได้ต้องการจะคุยกับคนอีกทั้ง 53 ล้านคน ซึ่ง Facebook เองก็มีเครื่องมือเครื่องใช้ด้าน Targeting ที่เรียกว่ามีคุณภาพและก็ทรงอำนาจมากมายๆไม่ใช่เฉพาะข้อมูลจำพวก Demographic อย่าง เพศ อายุ ภาษา ที่อยู่ เพียงอย่างเดียว แต่ว่ายังมีข้อมูลด้ามจับจากความประพฤติการใช้แรงงานตามความพอใจและก็การใช้ชีวิตบนออนไลน์ต่างๆของทุกคนอีกด้วยครับผม

นอกเหนือจากนั้นถ้าเกิดพวกเรามีข้อมูลลูกค้า (ที่มอบความยินยอมพร้อมใจสำหรับการจัดเก็บและก็ใช้ข้อมูลส่วนตัว) พวกเราสามารถนำไปสร้าง Custom audience รวมทั้งต่อยอดไปทำ Lookalike audience (หรือฝูงคนที่มีความใกล้เคียงกับกลุ่มทดลองของพวกเรา) ได้อีกด้วยนะครับ

แม้ตอนนี้ Facebook จะโดนตั้งปัญหามากไม่น้อยเลยทีเดียวเกี่ยวกับการนำข้อมูลของผู้ใช้งานไปใช้เพื่อสำหรับการโปรโมท (ซึ่งทาง Facebook เองก็ออกหลายๆมาตรการเพื่อเพิ่มความโปร่งสบายใสสำหรับเพื่อการพรีเซนเทชั่นโปรโมทและก็มาตรการคุ้มครองป้องกันข้อมูลส่วนตัวต่างๆที่มอบหนทางกับผู้ใช้งาน) ทำการตลาดบน Facebook ดีอย่างไร แต่ว่าผมรู้สึกว่า ตราบเท่าที่ยังมีคนประเทศไทยจำนวนไม่น้อยที่ใช้เวลาโดยมากอยู่ในที่ที่นี้และก็ใช้งานด้วยความเต็มใจ บวกกับการมีเครื่องมือที่ใช้ในการเข้าถึงอย่างมีคุณภาพ ก็เลยคือเรื่องธรรดาที่นักการตลาดอย่างพวกเรายังจะต้องมี Facebook อยู่ในแพลนลานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นะครับ

2. Facebook ยังช่วยเรื่อง Conversion และก็ Lead Generation ได้ดิบได้ดีมากมายๆ

การตลาดดิจิทัลในยุคนี้แค่ทำ Awareness campaign เพียงอย่างเดียวไม่ดีพออีกต่อไปครับ การทำให้เกิดยอดขายหรือการลงทะเบียนหรือเป้าหมายทางธุรกิจอื่น ๆ เป็นเป้าหมายที่จับต้องได้ ซึ่งนักการตลาดสามารถคำนวณความคุ้มค่าในการลงทุนทางการตลาดและโฆษณาได้ ถ้าไม่นับ Search Ads ของ Google ก็มี Facebook นี่ละครับที่เป็นช่องทางทำ Conversion ได้ดีอันดับต้น ๆ เลย

นอกจากนั้น การทำ Lead generation campaign หรือที่นักการตลาดไทยเรียกกันว่า “เก็บ Lead” ก็มี Facebook และ App ในเครือนี่ล่ะครับที่ช่วยหากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับ Campaign ของเราได้

แต่ช้าก่อน! ไม่ใช่ว่า Facebook เป็นเครื่องมือวิเศษที่เสก Conversion กับ Lead ให้ได้ทันทีนะครับ ทำการตลาดบน Facebook ดีอย่างไร มันต้องมาพร้อมกับงาน Creative (ภาพ วิดีโอ และข้อความ) ที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย และการตั้ง Targeting ที่ยอดเยี่ยม รวมถึงตัวสินค้าและบริการเองก็ต้องดีพอด้วยครับ

3. Facebook ไม่เป็นรองใครเรื่อง “แชตเพื่อชอป”

ถือว่าเป็นเรื่องปกติของบ้านเราไปแล้วนะครับ กับการซื้อของผ่าน Social ด้วยการแชตคุยกับแม่ค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นทาง Line หรือ Facebook Messenger ขั้นตอนที่เห็นกันทั่วไปคือ ร้านค้าโพสต์สินค้าลงบน Facebook หรือ Instagram คนที่สนใจก็ทักเข้าไปเพื่อเริ่มการซื้อขาย วิธีการซื้อขายแบบนี้มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า ‘Conversational Commerce’ และจากข้อมูลที่ Facebook แชร์ในงาน APAC Partner Summit 2019 เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาระบุว่ามูลค่า Conversational Commerce ในประเทศไทยนั้นมีมากถึง 4.8 พันล้านเหรียญเลยทีเดียว!